top of page

ไขข้อข้องใจ Mineral oil และ Paraben คืออะไร ? ดีไม่ดีอย่างไร ?


สวัสดีค่ะ วันนี้อัมจะมาพูดถึงเรื่อง Mineral oil และ Paraben สารสองชนิดที่ช่วงนี้หลายคนมักเลือกที่จะหลีกเลี่ยง และแบรนด์ส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้ก็มักจะเคลมว่าผลิตภัณฑ์ของฉันนั้นปราศจากสารสอง ตัวนี้ทำให้เป็นจุดขายของผลิตภัณฑ์นั้นไปอีก วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับสาร 2 ชนิดนี้กันว่าคืออะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงหลีกเลี่ยงการใช้สารเหล่านี้

Mineral oil

มาเริ่มกันที่ Mineral oil นะคะ Mineral oil เป็นสารที่ได้มาจากกระบวนการกลั่นของปิโตรเลียม มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว จัดอยู่ในกลุ่มของมอยเจอร์ไรเซอร์ แต่เมื่อใช้แล้วอาจก่อให้เกิดการอุดตันของผิวได้ปัจจุบันนี้จึงไม่นิยมใช้กัน

แต่ก็ใช่ว่า Mineral oil นั้นจะไม่ดีทั้งหมด คุณรู้หรือไม่ว่า สาร Paraffinum Liquidum ที่เป็นส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์จำพวก Baby Oil ของหลายๆ แบรนด์นั้นก็มีสารตั้งต้นเป็นปิโตรเลียมเช่นกัน แต่ต่างกันตรงที่ Paraffinum Liquidum นั้นมีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า และที่สำคัญคือไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของผิว

สรุปคือเวลาที่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ควรดูในส่วนผสมสำคัญว่าเค้าเขียนว่า Mineral oil หรือ Paraffinum Liquidum ถ้าเขียนว่า Mineral oil ก็ควรหลีกเลี่ยง แต่ถ้าเขียนว่า Paraffinum Liquidum ก็ใช้ได้อย่างสบายใจค่ะ

Paraben

ส่วน Paraben นั้นก็คือสารกันเสีย เป็นสารกันเสียที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อโรคได้หลายชนิดมากๆ ก่อให้เกิดการแพ้น้อย คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยแพ้สารตัวนี้ แถมยังมีราคาถูก ดังนั้นผู้ผลิตจึงนิยมใช้สารตัวนี้กันมาก และมีผลการทดลองออกมาว่าสารตัวนี้สามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้ แต่ก็มีผลการทดลองแย้งมาอีกว่ามันไม่เกิดในมนุษย์ มีการถกเถียงเรื่องนี้กันมานานมากและก็ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ถึงอย่างนั้นในปัจจุบันนี้ อ.ย ทั่วโลกรวมถึงไทยด้วย ได้มีประกาศยกเลิกห้ามใช้สารกันเสียในกลุ่ม Paraben แล้วตั้งแต่เมื่อปลายปี 2015

ทุกคนคงจะเห็นได้ว่าหลายแบรนด์พยายามจะเครมว่าสินค้าของฉันนั้นไม่มีส่วน ผสมของ Paraben แต่สำหรับตัวอัมแล้ว อัมไม่ได้รู้สึกว้าว รู้สึกดึงดูดใจที่จะซื้อเท่าไหร่เพราะ อ.ย ก็สั่งห้ามใช้อยู่แล้ว

ทีนี้เรามาคุยกันเรื่องสารกันเสียชนิดอื่นที่ไม่ใช่ Paraben กันบ้าง บางคนคงจะเคยได้ยินคำโฆษณาที่ว่าผลิตภัณฑ์ตัวนั้น ตัวนี้ไม่มีสารกันเสียซึ่งมันเป็นการตลาดที่น่าสนใจทีเดียว สำหรับช่วงที่คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น หลายคนจึงมองว่าการที่ไม่มีสารกันเสียนั้นเป็นเรื่องที่ดี

ซึ่งสินค้าบางตัว เราเห็นเราก็สงสัยว่า เฮ้ย…ทำได้จริงหรอไม่มีสารกันเสีย แต่พอไปดูส่วนผสมก็ถึงบางอ้อ คือเค้าใช้สารออกฤทธิ์ที่มีคุณสมบัติเป็นสารกันเสียได้ด้วยอย่างเช่น Nano Silver อะไรพวกนี้แต่สารตัวนี้มีราคาแพงมากๆ ส่วนมากจะนิยมใส่กันในสินค้าแบรนด์ hi end หรือถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติก็จะใส่เป็นพวกสารสกัดจากโรสแมรี่ที่ทำ หน้าที่เป็นสารกันเสียนั่นเอง และการที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆจะไม่ใส่สารกันเสียนั้นก็เป็นไปได้น้อยมากๆ (แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีนะคะก็มีบ้างแต่น้อย) เพราะเค้าผลิตมาขายคือ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารกันเสียเนี่ย จะทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นมีอายุสั้นลง อย่างเช่น 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน แล้วอีกอย่างคือเค้าผลิตมาเป็นจำนวนมาก การที่จะขายให้หมดเร็วนั้นเป็นไปได้ยาก ไม่ใช่ว่าผลิตมาวัน 2 วันขายหมดแล้ว ไม่ใช่ มันต้องใช้เวลา เช่นการกระจายสินค้า ไปร้านค้าย่อย ซึ่งร้านย่อยก็ไม่ได้ขายได้ทีเดียวหมด อีกทั้งยังมีปัจจัยเรื่องของอุณหภูมิอีก ซึ่งการเก็บสินค้าก็มีผลต่อผลิตภัณฑ์อีกเช่นกัน ดังนั้นสารกันเสียจึงมีความจำเป็นอยู่ไม่น้อย

โดยส่วนตัวแล้วเราจะรู้สึกอุ่นใจที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารกันเสีย มากกว่า เพราะเวลาที่เราใช้เนี่ยเปิดไปเจออากาศ ก็อาจจะมีเชื้อโรคติดมาแล้ว ยิ่งเป็นกระปุกที่ใช้มือควักแล้วยิ่งไปกันใหญ่

สรุปคือ ต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ อย่าไปหลงกับคำโฆษณามากจนเกินเหตุ คิดให้มาก ซึ่งในส่วนของสารกันเสีย Paraben นั้นตอนนี้อัมก็ยังเห็นมีสินค้าที่มีส่วนผสมของสาร Paraben ขายอยู่ ซึ่งใครที่รู้สึกไม่ชอบสารตัวนี้ก็คงจะต้องตรวจดูส่วนผสมกันก่อนซื้อนะคะ เพราะบางทีอาจจะเป็นสินค้าที่ค้างสต๊อกอยู่ก็เป็นได้

ขอขอบคุณคุณอัมที่อนุญาตให้นำบทความดีๆมาแชร์ที่ chouthailand.com อย่าลืมไปติดตาม blog คุณอัมกันนะคะ https://um13blog.wordpress.com


Featured Posts
Recent Posts
Archive
Search By Tags
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page