top of page

จากแอร์สู่การเป็นนักบิน


'"" จากเด็กคณะบัญชี มาเป็นแอร์ และสุดท้ายกลายเป็นนักบิน อาชีพที่หลายๆคนมองภาพว่าต้องมีแต่ผู้ชาย และการสอบผ่านแต่ละด่านไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ความมีดีที่ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตาเป็นแรงบันดาลใจให้รู้สึกว่าผู้หญิงเราจะทำอะไรก็ได้แค่เรามีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำ '""

ลูกค้าที่น่ารักของแบรนด์Chou ที่ทั้งสวยและมีความสามารถจนเราต้องติดต่อขอสัมภาษณ์ เพราะเชื่อว่าเรื่องราวดีๆของคุณกิฟท์จะต้องเป็นแรงบันดาลใจดีๆให้สาวๆหลายๆคนแน่นอน

​​​​

แนะนำตัวเองสั้นๆ

ชื่อ ชณิศา ปริญานุภาพ เรียกว่ากิฟท์ก็ได้ค่ะ กิฟท์จบจาก คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ตอบพร้อมกับยิ้ม... ยิ้มมีเสน่ห์มากๆ)

มีอะไรเป็นแรงบันดาลใจให้มาเป็นลูกเรือ ?

ตอนเข้ามหาวิทยาลัย เลือกเรียนบัญชี ตอนแรกก็มุ่งมั่นไปทางสายนั้นเลย จนได้มีโอกาสฝึกงานที่บริษัทรับตรวจสอบบัญชีแห่งหนึ่ง จึงรู้ว่าก็ยังไม่ใช่สิ่งที่เราอยากทำจริงๆ เลยกลับมานั่งทบทวนตัวเอง เลยรู้ว่าจริงๆเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง ชอบที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ แล้วอีกอย่าง หลังเรียนจบก็อยากเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เห็นโลกที่กว้างขึ้น เลยคิดแล้วละว่าการเป็นแอร์คงตอบโจทย์เราที่สุดในตอนนั้น พอใกล้จะจบปีสี่ Korean Air มาเปิดรับที่ไทย ก็เลยไปสมัครค่ะ

korean air

ประสบการณ์จากการเป็นแอร์

กิฟท์ใช้เวลาในการเป็นแอร์ประมาณ 1 ปี การเป็นแอร์ทำให้กิฟท์โตขึ้นเยอะเลย ได้เห็นโลกกว้างขึ้นแบบที่จะไม่เคยได้เห็นมาก่อน ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของหลายๆประเทศ ได้เจอคนที่หลากหลาย เรียนรู้ว่าคนแต่ละที่แตกต่างกันยังไง ทั้งด้านนิสัย ด้านทางทำงาน อะไรดีๆกิฟท์ก็พยายามนำมาปรับใช้กับการทำงานและเรื่องส่วนตัว

มีปัญหาเฉพาะหน้าให้แก้ตลอด ทำให้เราเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้นเพราะนอกจากจะต้องดูแลผู้โดยสารแล้วเรายัง ต้องดูแลตัวเองด้วย แอร์เป็นอาชีพที่ดีมากจริงๆค่ะ สอนกิฟท์หลายอย่าง ทุกวันนี้ก็ยังคิดถึงตอนเป็นแอร์อยู่บ่อยๆ ไม่เคยเสียใจเลยที่ได้มาทำอาชีพนี้

แต่การเป็นแอร์ก็ไม่ได้ดีในทุกๆเรื่อง ไฟล์ทที่กิฟท์บิน ส่วนมากเป็น long haul flight (flight time มากกว่า 8 ช.ม. และtime zone มากกว่า 4 ขึ้นไป) เพราะฉะนั้นก็จะไม่ได้กิน ไม่ได้นอนเวลาเดิม เรียกได้ว่าสลับกลางวันเป็นกลางคืนเลยก็ว่าได้ค่ะ บางไฟล์ทที่ยาวๆนี่ต้องอดนอนข้ามวันข้ามคืนกันเลยทีเดียว สุขภาพเราก็แย่ลงค่ะ

แล้วจากแอร์มาเป็นนักบินได้อย่างไร ?

จริงๆแล้วกิฟท์ก็ยังมีความสุขกับการเป็นแอร์อยู่นะคะ แต่พอยิ่งได้มาเห็นการทำงานของนักบินก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นอาชีพที่ท้าทาย พอแอร์เอเชียเปิดรับสมัครนักบิน กิฟท์ก็คิดว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญที่เข้าสำหรับการก้าวสู่ประตูบานใหม่ กิฟท์เลยตัดสินใจสมัครทั้งๆที่แทบไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการสอบคัดเลือกเลย ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องติดเลย คิดเพียงแค่ว่าถ้าอยากทำก็ต้องเริ่ม ถ้าไม่เริ่มวันนี้แล้วจะเริ่มวันไหน อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์ รอบนี้ไม่ได้รอบหน้าก็สู้ใหม่

การเป็นนักบินยากไหม ท้อบ้างไหม ?

ยากนะคะ ต้องสอบถึง 3 รอบ กับแบบทดสอบมหาโหด ใครอยากรู้รายละเอียดจริงๆไปตามอ่านที่เฟสกิฟท์ได้ (https://goo.gl/LqV7iy) กิฟท์สมัครครั้งแรกไม่ผ่าน กิฟท์ก็สมัครใหม่ ผ่านมาทั้งหมดคิดว่าเราสำเร็จแล้วในการเป็นนักบิน จริงๆมันไม่ใช่เลย

ความยากมันอยู่ที่การฝึกเป็นนักบิน เราต้องฝึกถึง 200 ชั่วโมงก่อนที่เราจะได้บินจริงกับผู้โดยสาร ความเหนื่อยตรงนี้มันทำให้ข้อสอบที่เราเคยสอบทั้งหมดมันดูง่ายไปเลย เคยท้อจนอยากจะเลิก กิฟท์ว่าไม่ผิดนะที่เราจะเหนื่อย จะร้องไห้ เราเป็นคนไม่ใช่หุ่นยนต์ ต้องมีความรู้สึกอยู่แล้ว แต่มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะมีวิธีจัดการมันยังไง กิฟท์ใช้วิธีพักก่อน ไม่กดดันตัวเองต่อ พอรู้สึกดีขึ้นก็ค่อยมาสู้ใหม่ ให้กำลังใจตัวเองใหม่ จริงๆกิฟท์ไม่ใช่คนเก่งเลยนะ มีเพื่อนที่กิฟท์รักมากคนนึงบอกไว้ว่า "ยิ่งเรารู้ว่าเราไม่เก่ง เราก็ต้องขยันเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า" การเตรียมตัวก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ หลักๆเลยเราควรรู้ว่าคุณสมบัติของแอร์/นักบินที่ดีคืออะไร คนแบบไหนที่สายการบินต้องการ ลองถามตัวเองว่าเราอยากทำอาชีพนี้เพราะอะไร จะได้รู้ไปด้วยเลยว่าเราเหมาะกับอาชีพนี้จริงๆรึเปล่า ถ้าคำตอบคือใช่ เดินหน้าสู้ให้เต็มที่เลยค่ะ กิฟท์เชื่อเสมอว่าถ้าเราตั้งใจจริง สักวันหนึ่งความสำเร็จจะเป็นของเรา

อยากฝากอะไรกับทุกคนที่ยังไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ?

หลายคนถามกิฟท์ว่า การเป็นนักบินคือความฝันตั้งแต่เด็กเลยใช่มั้ย? กิฟท์ตอบได้ทันทีเลยว่า "ไม่ใช่" เพราะอะไรรู้ไหมคะ เพราะกิฟท์คิดมาตลอดว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักบินได้ และกิฟท์ก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนนึง คงเป็นนักบินไม่ได้หรอก แต่โชคดีที่กิฟท์รู้ว่าทำอะไรแล้วมีความสุข กิฟท์เลยตัดสินใจทิ้งทุกอย่างเพื่อมาทำสิ่งนี้ จริงๆกิฟท์ก็ตอบไม่ได้ว่าอยากเป็นนักบินมากแค่ไหน แต่ตอนนั้นคิดแค่ว่าถ้าไม่ได้ลองพยายามให้เต็มที่ กิฟท์คงเสียดายไปตลอดชีวิต

สุดท้ายแค่อยากจะบอกว่า อย่าให้สังคมมาเป็นตัวกำหนดคุณค่าของเรา "อย่าให้ใครมาบอกว่าเราทำอะไรไม่ได้" คนเราไม่เหมือนกัน กิฟท์เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถในแบบของตัวเอง หามันให้เจอแล้วเดินตามความฝันของเรา เมื่อวันนึงความฝันนั้นเป็นจริงขึ้นมา เราจะรู้ได้ทันทีว่ามันคุ้มค่ามากแค่ไหนกับทุกอย่างที่เราได้พยายามมา :)

การทำตาม”ความฝันของตัวเอง” มันอาจจะเหนื่อย แต่มันก็เหนื่อยน้อยกว่ารับใช้ “ความฝันของคนอื่น” - การลาออกครั้งสุดท้าย

บทสัมภาษณ์ นางสาว ชณิศา ปริญานุภาพ นักบิน Air Asia

เรียบเรียงโดย Chou Thailand


Featured Posts
Recent Posts
Archive
Search By Tags
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page