วิธีถนอมสายตาจากแสง blue light

ช่วงนี้ใคร Work from Home ทำงานอยู่หน้าจอคอมก็จะเข้าใจปัญหากันดีที่มากับแสง Blue Light ที่มาจากแสงจอคอมพิวเตอร์ หรือว่าโทรศัพท์มือถือ อาจส่งผลทำให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นนั้นแย่งลง เนื่องจากการได้รับแสงหน้าจอมากเกินไปทำให้เกิด อาการตาแดง แสบตา ปวดตา ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกท่านมาถนอมสายตา ด้วยวิธีที่เรานั้นได้รวบรวมมาไว้ตรงนี้แล้วค่ะ
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ " blue light " กันก่อนค่ะ
Blue light คือ แสงสีฟ้าที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Visible light อยู่ใกล้กับแสง UV ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอย่างเช่น แสงแดด
แล้วสงสัยมั้ยค่ะว่า ทำไม Blue light ถึงเป็นแสงที่มีอันตราย ? นั่นเป็นเพราะว่า Blue light มีอานุภาพในการทำลายเยื่อเรติน่า (Retina) ซึ่งเป็นเยื่อในสุดของลูกตาที่ทำหน้าที่เป็นจอรับภาพ นอกจากนี้แสงสีฟ้ายังกดการหลั่งของฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการหลับลึกและในการชะลอวัยนั่นเองค่ะ
1. ใส่แว่นถนอมสายตา
สงสัยกันมั้ยค่ะว่า.........แค่ใส่แว่นแล้วจะช่วยถนอมสายตายังไง จริง ๆ แล้วไม่ใช่ว่าทุกแว่นนะคะที่จะช่วยถนอมสายตา แต่ควรเป็นแว่นที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงสีฟ้าหรือ แสง Blue Light โดยตรงจะดีกว่าค่ะ เพราะว่าแว่นกรองแสงสีน้ำเงินช่วยป้องกันดวงตาจากแสงคอมพิวเตอร์ที่เป็นอันตรายซึ่งสามารถทำลายเซลล์ที่ไวต่อแสงที่พบในจอประสาทตา เมื่อเซลล์เหล่านี้ได้รับแสงสีน้ำเงินมากเกินไปโดยไม่มีการป้องกันใดๆ อาการเริ่มแรกของจอประสาทตาเสื่อม

2. หยอดยาหยอดตาหรือน้ำตาเทียม
ทุกครั้งที่เรานั้นจ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน จะรู้สึกได้ว่าตาของเรานั้นแห้ง หลายท่านมักจะละเลยในส่วนนี้เพราะคิดว่าคงจะไม่ใช่อะไรที่ร้ายแรง จริง ๆ เป็นสิ่งที่จำเป็น เป็นอย่างมากเลยค่ะเพราะนั้นอาจทำให้เกิด " โรคตาแห้ง " จะรู้สึกระคายเคือง เหมือนมีฝุ่นอยู่ในดวงตา รู้สึกแสบตาง่ายโดยเฉพาะเมื่อมีลมพัดเข้าสู่ดวงตา หรือเมื่ออยู่ในห้องแอร์จะรู้สึกได้ว่าตาเรานั้นแห้ง การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ในระยะเวลานาน และใกล้กับจอคอมพิวเตอร์แล้วผ่านไปสักระยะจะรู้สึกว่าตาเบลอ ๆ ดังนั้นเราจึงควรใช้น้ำตาเทียม ซึ่งมีส่วนประกอบของน้ำและไขมัน เพื่อป้องกันการระเหยของน้ำตา การใช้น้ำตาเทียมเพื่อหยอดตาสามารถใช้งานได้ในทุก 1-2 ชั่วโมง เมื่อเกิดอาการตาแห้งระหว่างทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออ่านหนังสือเป็นเวลานานและกิจกรรมอื่น ๆ

3. จัดแสงในห้อง
แสงในห้องก็สำคัญเช่นเดียวกันนะคะ เพราะว่าหากแสงน้อยไปนั้นอาจทำให้สายตาเราล้าได้ และแสงสีฟ้าอาจส่งผลกระทบต่อสายตาเรามากขึ้นกว่าเดิม เพราะฉะนั้น ใครที่ทำงานที่มืด ๆ ต้องเปิดหน้าต่างเพื่อรับแสงด้วยนะคะ และก็หน้าต่างนั้นไม่ควรอยู่ด้านหลังเราหรือด้านหน้าเรา แต่หน้าต่างควรอยู่ด้านข้างเรา ถ้าหากเราเป็นคนถนัดขวา หน้าต่างควรอยู่ด้านซ้ายนั้นเองค่ะ

4. ตั้งค่าหน้าจอ
นอกเหนือที่กล่าวมาแล้วเราสามารถตั้งค่าหน้าจอเพื่อลดแสง Blue light ได้เช่นเดียวกันนะคะ เพราะไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ หรือคอมพิวเตอร์ ทางระบบการทำงานนั้นจะมีตัวช่วยเรื่องการถนอมสายตาเราได้ด้วยนะคะ
โทรศัพท์ : การตั้งค่า > จอแสดงผลและความสว่าง > ถนอมสายตา
คอมพิวเตอร์ : การตั้งค่า > Notifications > Night Light
5. เสริมด้วยกระจกกรองแสง
หลาย ๆ ท่านที่ทำงานผ่านหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ หรือว่าโทรศัพท์ ก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราต่างต้องใช้งานในชีวิตประจำวันของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งในการทำงาน การเรียน หรือแม้แต่ในเวลาส่วนตัว ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีการพัฒนาโดยการมีตัวช่วยในการถนอมสายตา โดยการใช้ตัวเสริมด้วยกระจกกรองแสง ที่จะช่วยกรองแสงสีฟ้าก่อนที่ แสงจะมาถึงตาเรา หรือฟิล์มถนอมสายตาสำหรับโทรศัพท์
6. 20-20-20
เห็นแบบนี้แล้วไม่ใช่สูตรทางคณิตศาสตร์แต่อย่างใด แต่ว่ามันคือสูตรถนอมสายตาเรานั่นเองค่ะ ก็คือให้มองห่างจากบริเวณที่ทุกท่านนั้นนั่งประมาณ 20 เมตร เป็นเวลา 20 วินาที เพื่อให้สายตาปรับตัวใหม่
7. จำกัดเวลาอยู่หน้าจอ
ไม่ควรจ้องหน้าจอทุกชนิดนานเกิน 2 ชั่วโมงต่อครั้ง เพราะหากเล่นนานเกินกว่า 2 ชั่วโมง อาจทำให้สายตาอ่อนล้าและปวดเกร็งได้
8. วางต้นกระบองเพชรเล็ก ๆ ไว้ด้านข้าง
ผลวิจัยของสถาบัน Recherches en Geobiologie และนักวิจัยในอเมริกาพบว่า หนามของต้นกระบองเพชรเป็นสื่อดูดรังสีจาก TV และคอมพิวเตอร์ได้ รวมทั้งกระบองเพชรยังอาจดูดรังสี UV ที่เปล่งออกมาจากอุปกรณ์ไฮเทคไว้สังเคราะห์แสงแทนแสงแดดด้วยในตัว ยังไงก็ลองดูกันได้นะคะ
ข้อความข้อที่ 8 อ้างอิงจาก : pctoptical

ถึงแม้ว่าเราจะทำตามข้างต้นที่กล่าวมาแล้วแต่ก็อย่าลืมตรวจวัดค่าสายเรานะคะ เพราะสายตาของเรานั้นสามารถเปลี่ยนได้ตลอด หรือควรตรวจเช็กจอประสาทตาและความผิดปกติของสายตา หากตรวจพบ ก็จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อช่วยป้องกันการอาการตาพล่ามัว มองไม่ชัด ปวดเกรง หรือสูนเสียการมองเห็นนั่นเองค่ะ
Comments